อ.ชนะ ยาดี ผู้บริหาร และ วิทยากรหลัก ค่ายลูกเสือ ไพรพนา

การเข้าสู่ เส้นทาง วิทยากร อบรม ลูกเสือ ของ อ. ชนะ ยาดี นั้น จุดเริ่มต้น ไม่ได้สวยหรู อย่างที่ใครๆ คิด ภายใต้ รอยยิ้ม เสียงหัวเราะ ของคณะลูกเสือ ที่ได้เห็นบทบาท การแสดงของ อ. ชนะ ยาดี

  จะมีใครรู้บ้างไหมว่า ตลอดเส้นทางที่ผ่านมา กว่าจะเป็นที่ ยอมรับ ในวงการ ลูกเสือ อ.ชนะ

ต้องผ่านอะไรมาบ้าง ?

แรงบันดาลใจอะไร ?

   ที่ทำให้ หนุ่มสุพรรณ ขับมอเตอร์ไซค์ วินรับจ้าง สู่ วิทยากร ลูกเสือ ระดับ ดอกเตอร์ และ ผู้บริหาร ค่ายลูกเสือ ไพรพนา ลองมาดูประวัติคร่าวๆ ของ อ.ชนะ ยาดี กันครับ

หนุ่มสุพรรณ ฝันหวาน

  ชนะ ยาดี เป็นหนุ่ม จังหวัด สุพรรณบุรี จากครอบครัวที่มีฐานะความเป็นอยู่ที ยากลำบาก เมื่อ จบ มัธยมศึกษา 3 ก็ได้ย้ายเข้ามาอยู่กับญาติที่ กทม

พ.ศ. 2520 -2521 

ดรัมเมเยอร์ มือ1 โรงเรียนหรรษาสุจิตต์ จังหวัด สุพรรณบุรี 

เรียกว่ามีแววตั้งแต่เด็ก

ประสบอุบัติเหตุ

   เข้ามาอยู่ กทม ได้ไม่นาน ก็ได้ประสบอุบัติเหตุ ร้ายแรง จากการที่ ขับมอเตอร์ไซค์ ชนท้ายรถบรรทุก ทำให้กระดูกต้นคอแตก ทับเส้นประสาท  เมื่อฟื้นขึ้นมา ร่างกายเป็นอัมพาต ไม่สามารถขยับร่างกายได้ เป็นช่วงที่ทรมานที่สุด ในชีวิต ของ ชนะ ยาดี ทั้งท้อแท้ และ สิ้นหวัง เพราะไม่รู้ว่าชีวิตจะกลับมาเดินได้ หรือ เป็นปกติอีกหรือไม่ ซึ่งก็ใช้เวลา เป็นปี ที่ทำการ กายภาพบำบัด จนอาการ ดีขึ้นเป็นอันดับ และ หายเป็นปกติ

ทหารเกณฑ์ ราชวัลลภ รักษาพระองค์

   หลังจากนั้น ได้เป็น ทหารเกณฑ์ ราชวัลลภ รักษาพระองค์ รุ่น 2528 เป็นจุดเริ่มต้นของการที่ได้รับการฝึกฝน ระเบียบวินัย จนได้ติด ยศ จ่าอากาศตรี ผู้ช่วย กองประจำการ รุ่น 2528 พลัด 2 ด้วยการเป็นทหารประจำการ 2 ปี ได้รับประสบการณ์ ความรู้ ความคิด ระเบียบวินัย และ ตั้งเป้าหมายว่าเมื่อปลดประจำการไป จะต้องเรียนให้จบ มัธยมศึกษา 6 ให้ได้

หนุ่มวิน มอเตอร์ไซค์

    เมื่อต้นทุนชีวิตไม่ได้มีเยอะเหมือนคนอื่น ก็ต้องไขว่คว้าหา โอกาสที่มีอยู่ เมื่อปลดประจำการ มา ก็มาทำอาชีพ ขับมอเตอร์ไซค์ รับจ้าง เพื่อเก็บเงิน ส่งตัวเองเรียนต่อ มัธยมศึกษา  ปีที่ 6 กศน ถ้าสมัยก่อน ใครอยู่ใกล้ โรงพยาบาลภูมิพล เขตสายไหม วินข้างโรงพยาบาล น่าจะพอจำได้เพราะ ตัวสูงที่สุดในวินแล้วครับ

จบ มัธยมศึกษา 6 สมัครเป็น ครู

เมื่อเรียน จบ มัธยมศึกษา 6 สมดังตั้งใจ ก็ได้สมัครเป็น ครูโรงเรียนเอกชน แห่งหนึ่ง ย่านปทุมธานี สมัยก่อน การเป็นครูยังไม่มีกฏระเบียบเคร่งครัดมาก แต่ก็ยังไม่เป็นที่ยอมรับเท่ากับการที่มี คุณวุฒิ ครู ค.บ โดยตรง

ได้สอน วิชาลูกเสือ ครั้งแรก

เป็นครั้งแรก ที่มีโอกาส ได้สอนวิชาลูกเสือ ให้กับนักเรียน ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของ ความสนใจ ในการเริ่มศึกษาวิชาลูกเสือ อย่างจริงจัง เพราะในระหว่างสอนนั้น มีหลายอย่างที่ อ.ชนะ คิดว่ามันอาจไม่ถูกต้อง ทั้งการแต่งกาย และ หลักการสอน ครูในโรงเรียนก็ไม่มีใครรู้จริง ในวิชาลูกเสือ

ค้นพบตัวตนคนลูกเสือ

26 -30 มีนาคม 2544 ค่ายวชิราวุธ จังหวัด ชลบุรี

การฝึกอบรมผู้บังคับบัญชาลูกเสือวิชาบุกเบิก

เมื่อได้เริ่มศึกษา ประวัติ วิชาลูกเสือ จากการค้นคว้าด้วยตัวเองแล้ว เกิดความศรัทธา ในขบวนการ ลูกเสือ และ มีความตั้งใจ จะสานต่อเจตนารมณ์ของ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ผู้ให้กำเนิดลูกเสือไทย จึง ปฏิญาณกับตนเอง ว่าจะทุ่มเท ชีวิต แรงกาย แรงใจ เพื่อขบวนการลูกเสือไทย

มุ่งมั่นพัฒนาตน

เมื่อใจศรัทธา ความมุ่งมั่น นั้นมีเป้าหมาย จึงต้องพัฒนาตัวเอง ให้ไปถึงจุดหมายที่คนยอมรับ จึงเรียนต่อ ปริญญาตรี ครุศาสตร์บัณฑิต สาขาวิชาพลศึกษา พร้อมกับ อบรมหลักสูตร ลูกเสือ Wood Badge ทั้ง 4 ประเภท โดยที่ เป็น ครูสอน โรงเรียนเอกชนไปด้วย

และ เริ่มแนะนำกระบวนการ การจัดค่ายลูกเสือ ให้กับโรงเรียนอื่นๆ และ ผู้สนใจ เพิ่มเติม อาชีพเสริม ออกรถตู้ มือ 2 รับส่งนักเรียนเพื่อเป็นรายได้อีกทาง

อุปสรรค ปัญหา

เสียงวิจารณ์ คำเย้ยหยัน

ในวันที่หลายอย่าง ไม่เป็นไปอย่างที่ใจคิด อุปสรรค ปัญหาถาโถม ดังคลื่นลมซัดกระหน่ำ ให้ใจ ท้อแท้ รถตู้มือ 2 พัง ใช้การไม่ได้ ซ่อมไม่คุ้มเสีย จนจำใจต้องขายถูก เลยต้องพึ่งพา มอเตอร์ไซค์ คู่ใจ ขับรับงาน วิทยากร พิธีกร ต่างๆ เสาร์ อาทิตย์ ขับมาเรียน ป.ตรี ที่ ราชภัฏวไลยอลงกรณ์

ขับรถมอเตอร์ไซค์ รับงานวิทยากร และ ด้วยบุคลิกภาพ การแสดง ประกอบด้วย เพลงพื้นบ้านที่ นำมาประยุกต์ใช้ หน้าเวที ที่โดดเด่น ไฟแรง กล้านำเสนอ จึงเป็นที่มาของเสียง วิจารณ์ ในแวดวง กลุ่ม วิทยากร ลูกเสือ และ กลุ่มวิทยากร นันทนาการ ในสมัยนั้น อาจเรียกว่า สกัด ดาวรุ่ง ก็ว่าได้

เสียง วิจารณ์ และ คำเย้ยหยัน ว่า วิทยากร ชนะ ยาดี เรียนจบวุฒิอะไรครับ ? เอาหลักสูตรตำราไหนมาสอน ? เรียนหลักสูตรลูกเสือที่ไหนมา? เป็น อาจารย์จริงๆหรือป่าว เคยเห็นขับวินอยู่หน้าโรงพยาบาล ไปกลางซอยราคาเท่าไหร่ครับ 555 ?

ณ เวลานั้นเสียง วิจารณ์ ของคนบางกลุ่มมันก็ดังมากพอ ที่จะทำให้ ไม่มีใคร กล้าจ้างงาน อ.ชนะ ยาดี และ ตอนนั้น ยังเรียน ป.ตรี ไม่จบ เรียนลูกเสือ ยังไม่ครบหลักสูตร ก็ต้องประมาณตน อดทนไว้ รอวันที่เรียนจบครบหลักสูตร จะกลับมาเป็น วิทยากร ลูกเสือ อย่างภาคภูมิ

(เมื่อก่อนวุฒิการศึกษา เป็นสิ่งที่สำคัญมาก ต่อให้มีความสามารถแค่ไหนแต่ไม่มี วุฒิการศึกษา ทุกอย่างก็หมดความหมาย ไม่เป็นที่ยอมรับ ไม่เหมือนสมัยนี้ ถ้ามีความสามารถ ก็ลง youtube ก็อาจจะดังได้)

จิตอาสา

เพราะทำด้วยใจ ไม่ใช่เงินทอง เพราะศรัทธา มิใช่ธุรกิจค้าขาย เมื่อไม่คนจ้าง งานวิทยากรณ์ อ.ชนะ ยาดี ก็ อาสา ให้คำแนะนำ พร้อมลงมือทำให้เลย สำหรับ ครูโรงเรียนต่างๆ ที่สนใจ ที่มีความเชื่อมั่นใจในตัว อ.ชนะ ยาดี ก็จะแนะนำกระบวนการ การจัดค่ายลูกเสือ และ หลักการของลูกเสือ

หลายครั้งที่มีการจัดเข้าค่ายพักแรม อ.ชนะ ยาดี ก็ลงไปช่วยจัดการให้ ตั้งแต่ วางแผนงาน ทุกขั้นตอน จนลงมือปฏิบัติการ ตั้งแต่ เปิดกองลูกเสือ จนปิด กองลูกเสือ

ทั้งหมดนี้ไม่ได้รับค่าจ้างแต่อย่างใด และแน่นอนว่า อ.ชนะ ยาดี คนเดียวก็คงทำไม่ได้ อ.ชนะ เปิดรับผู้ช่วย อาสา แบบไม่มีค่าจ้าง 4 – 5 คน มีงานที่ไหน ผลัดกันไป ใครว่างก็ไปช่วยกัน (เป็นจุดเริ่มต้น ของการรวมเป็นทีม ค่ายลูกเสือ ไพรพนา ในเวลาต่อมา)

แต่ได้รับสิ่งตอบแทน เป็น รอยยิ้ม ของคณะลูกเสือตัวน้อยๆ และ คำขอบคุณ ของคุณครู เพื่อนร่วมอาชีพ ด้วยสิ่งเหล่านี้ เป็นเหมือนดั่งกำลังใจ ให้ อ.ชนะ ยาดี เดินหน้าไม่หยุดยั้ง

จบ ปริญญาตรี พร้อม

จบ อบรมหลักสูตรลูกเสือ

และแล้ว วันที่รอคอยก็มาถึง วันที่เรียนจบ ปริญญาตรี ครุศาสตร์บัณฑิต สาขาวิชาพลศึกษา พร้อมกับ อบรมหลักสูตร ลูกเสือ Wood Badge ทั้ง 4 ประเภท เมื่อเรียนจบ อ.ชนะ ยาดี ก็ได้ ออกเดินทาง เป็นวิทยากร อบรมลูกเสือ ให้กับ โรงเรียน ทั่วประเทศ และ เป็น วิทยากร รับเชิญลูกเสือ ให้กับค่ายลูกเสือ ต่างๆทั่วประเทศ รวมทั้งเป็น วิทยากร พัฒนาบุคคลากร ในองค์กร ให้กับ ภาครัฐและเอกชน

จากการที่เป็น วิทยากร ลูกเสือ มาทั่วประเทศ อ.ชนะ สังเกตุเห็นว่า หลักสูตร การเข้าค่ายพักแรมลูกเสือ ในหลายที่นั้น เริ่มที่จะเปลี่ยนไปตามยุคสมัยมากเกินไป จนเริ่มห่าง ความเป็นธรรมชาติ ของลูกเสือไปเรื่อยๆ

ที่พักแรม จาก กางเต้นท์ ปัก สมอบก กลาย เป็น นอนห้องแอร์ ทำอาหาร ก่อกองไฟ จากกิ่งไม้แห้ง วางด้วยหิน 3 ก้อน กลายเป็น แก๊สปิ๊กนิค หรือ เตาถ่าน ย่างหมูกะทะ กิจกรรมรอบกองไฟ กลายมาเป็น ห้องโถงแอร์ และ เรื่องอื่นๆ ที่เน้นความสะดวกสบาย จนลืมไปว่า วัตถุประสงค์ ในการฝึก ลูกเสือ ที่แท้จริง คือ อะไร ?

ซึ่งสิ่งเหล่านี้ ทำให้ความเข้มข้น ของหลักสูตร ลูกเสือ เจือจางลงไปเรื่อยๆ

แต่ ณ. ตอนนั้น อ.ชนะ ยาดี เป็นเพียง วิทยากร อบรมลูกเสือ ที่เขาจ้างมาให้ดำเนินงาน จะไปเปลี่ยนแปลงอะไร คงไม่ได้ เพราะบางแห่งเป็นธุรกิจ ที่สร้างขึ้นมาเพื่อสร้างความบันเทิง สะดวกสบายและต้องทำกำไร ทุกอย่างมีค่าใช้จ่าย

จึงทำให้ อ.ชนะ ยาดี มีความคิดขึ้นมาว่า ทำไมเราไม่ทำ ค่ายลูกเสือ ของเราเอง โดย ที่เราสามารถนำ หลักสูตร ลูกเสือ มาตรฐาน มาใช้อบรมให้กับ คณะลูกเสือ และ สร้างตัวเลือก ให้กับ คณะลูกเสือที่มี งบประมาณจำกัด ได้มีพื้นที ธรรมชาติ จัดกิจกรรม พร้อมมี วิทยากร อบรมลูกเสือ โดยที่ไม่ต้อง จ้างเพิ่ม

(คิดการใหญ่ แต่เงินไม่มี)

เรียน ต่อ ปริญญาโท

ระหว่างที่มีความคิด เรื่องการเปิด ค่ายลูกเสือ อ.ชนะ ยาดี ได้ตัดสินใจ ศึกษา ต่อ ปริญญาโท บริหารการศึกษา และ เข้ามาเป็น อาจารย์ พิเศษใน มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ เป็น เป็นวิทยากร อบรมลูกเสือ และ วิทยากร พัฒนาบุคคลากร ในองค์กร ให้กับ ภาครัฐและเอกชน อย่างต่อเนื่อง

เรียน จบ ปริญญาโท

อ.ชนะ ยาดี ได้เรียนจบ ปริญญาโท บริหารการศึกษา และ ได้เป็น อาจารย์ พิเศษ ใน มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ จนได้รับการ บรรจุเป็น อาจารย์ประจำในมหาวิทยาลัย ในปีที่ 3

อยากเปิด ค่ายลูกเสือ

ทุกคืน ก่อนนอน ความคิดเรื่อง เปิดค่ายลูกเสือ ของตัวเองนั้น ยังคงวนเวียน อยู่ในหัว ของ อ.ชนะยาดี ทุกค่ำคืน ย้ำแล้วย้ำอีก แต่จะเป็นไปได้อย่างไร เพราะค่ายลูกเสือนั้น ต้องใช้พื้นที่เยอะ ไหนจะสิ่งก่อสร้างอีก ค่ายอื่นๆที่เขาเปิดกัน เขาเป็น นักธุรกิจ มีเงิน เป็น 100 ล้าน

เคยปรึกษาคนอื่นๆ หลายคนก็แนะนำว่าอย่าเปิดเลย เขาเปิดกันเจ๊งเยอะแยะ

แต่เป็นที่น่าแปลก ทั้งที่ไม่มีความเป็นไปได้ แถมหลายๆคนก็เตือนคัดค้าน แต่ อ.ชนะ ยาดี ก็ไม่สามารถหยุดความคิด ที่อยากจะเปิด ค่ายลูกเสือได้ ทั้งๆที่ไม่เงินมากมาย มีแค่เงินเก็บเพียงน้อยนิดจากการทำงานมาทั้งชีวิต

เพราะสิ่งที่คนอื่นๆคิด เขาคิดแบบธุรกิจ ว่าสร้างค่าย ใช้เงินเท่าไหร่ และ จะได้กำไรเท่าไหร่ ทำอย่างไรให้คนมาเข้าค่ายเยอะๆเพื่อ กำไร ที่เยอะขึ้น

แต่สิ่งที่ อ.ชนะ ยาดี คิด กลับคิดว่า อยากเปิด ค่ายลูกเสือ ที่รายล้อมไปด้วย ต้นไม้ ธรรมชาติ มีพื้นที่ทำกิจกรรม ลูกเสือ ให้ตรงกับหลักสูตร ลูกเสือ ให้ได้มากที่สุด

ทำอย่างไร ให้ คณะลูกเสือ โรงเรียนต่างๆ มาเข้าค่ายพักแรม ได้เรียนรู้ ทักษะ ในขบวนการลูกเสือ ได้อย่างเท่าเทียมกัน มี วิทยากรและทีมงานลูกเสือ คุณภาพ จัดการวางแผนงานร่วมกันพร้อมปฎิบัติการ กับ คุณครู ของคณะลูกเสือ ในราคา งบประมาณ ที่ไม่แพง

เพราะทำด้วยใจ ไม่ใช่เงินทอง เพราะศรัทธาในขบวนการลูกเสือ มิใช่ธุรกิจค้าขาย สิ่งที่เป็นกำไร สำหรับ อ.ชนะ ยาดี คือ ได้วางรากฐาน จิตใจ สร้างเยาวชน ของชาติ ให้มี ความเป็นผู้นำ ผู้ตามที่ดี ปลูกจิตสำนึกการทำความดี ผ่านกระบวนการลูกเสือ ตามเจตนารมณ์ ของ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว(ร.6) ที่เป็นผู้ทรงก่อตั้งกิจการลูกเสือไทย

จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่ อ.ชนะ ยาดี ผู้ที่ได้ให้ ปฏิญาณกับตนเองว่า จะทุ่มเท ชีวิต แรงกาย แรงใจ เพื่อขบวนการลูกเสือไทย ตั้งแต่เริ่มเข้า วงการลูกเสือ จะเดินหน้า ไม่หยุดยั้ง เพื่อ ลูกเสือไทย

ก่อร่างสร้าง ค่ายลูกเสือ

และโอกาสนั้นก็มาถึง เมื่อมี คนแนะนำพื้นที่ ใน จังหวัดนครนายก ที่เป็นพื้นที่ธรรมชาติ เหมาะสำหรับ จัดตั้งค่ายลูกเสือ

อ.ชนะ ยาดี ไม่รีรอ มุ่งหน้าไปดูพื้นที่ใน จังหวัดนครนายก ทันที และพอไปถึง ภาพ ค่ายลูกเสือ ที่เคยนึกคิด เอาไว้ในจินตนาการ ซึ่งในตอนนี้มันมาอยู่ตรงหน้า แล้ว

เมื่อพูดคุยเงื่อนไขกันเรียบร้อย อ.ชนะ ยาดี จึงตัดสินใจ ที่จะเปิด ค่ายลูกเสือไพรพนา ขึ้น ซึ่งแน่นอนว่า ต้องแลกกับทุกสิ่งทุกอย่างที่ อ.ชนะ ยาดี มี

อ.ชนะ ยาดี ลาออกจาก การเป็น อาจารย์ ที่มหาวิทยาลัย เพื่อมาทุ่มเทให้กับ ค่ายลูกเสือ ไพรพนา อย่างเต็มที่ รวมถึง ย้ายตัวเองจาก เมืองกรุง มาเข้าป่าอยู่ในค่าย ลงมือ พัฒนาที่ดิน ให้เป็น ค่ายลูกเสือ ที่สมบูรณ์

ก่อตั้งสมาคมสโมสร

ลูกเสือไพรพนา

เมื่อสร้าง ค่ายลูกเสือ ไพรพนา จังหวัด นครนายก อ.ชนะ ยาดี ได้ก่อตั้ง สมาคมสโมสร ลูกเสือไพรพนา ขึ้น โดยมีสมาชิก และ อ.ชนะ ยาดี เป็นนายกสมาคม ทั้งนี้เพื่อสามารถ อบรม หลักสูตร ขบวนการ ลูกเสือ ให้กับ ครู ทั่งประเทศได้

ด้วยแนวคิดที่ว่า ครู 1 คน จะมีอายุราชการไม่ต่ำกว่า 20 ปี สามารถสอนวิชาลูกเสือ นักเรียนได้ มากกว่า 5,000 คน

และ ณ.ปัจจุบันนี้ อ.ชนะ ยาดี ได้สอน คุณ ครู ทั่วประเทศ ไปแล้วกว่า 1 หมื่นคน นั้นหมายความว่า ครูที่ได้รับ การฝึกอบรม หลักสูตร ขบวนการ ลูกเสือ จะนำไปถ่ายทอด ให้กับ นักเรียน ในโรงเรียน ที่ ครู สังกัดอยู่

ความรู้ และ แนวความคิด กระบวนการลูกเสือ จะไปถึง นักเรียน และ เยาวชน ของชาติไทย หลายล้าน คนในภาพรวม

ซึ่ง เยาวชน เปรียบเหมือนเป็น ต้นกล้า ที่เราต้องดูแล ใส่ปุ๋ย พรวนดิน รดน้ำ และ คุมปริมาณ แสงแดด เพื่อให้ต้นกล้านั้น แข็งแรง เยาวชน ของชาติ ก็เช่นกัน

เราหวังว่า เยาวชน เหล่านั้น จะเติบโตเป็น บุคลากร ที่มีคุณภาพ ของชาติไทย สืบไป

 ณ ปัจจุบัน

อ.ชนะ ยาดี ได้ศึกษาต่อ ปริญญาเอก สาขา หลักสูตร และ การสอน ซึ่งตอนนี้ก็ดำเนินการไปกว่า 95 % แล้ว

อีกไม่นาน เราจะมี วิทยากร ลูกเสือ ระดับ ด็อกเตอร์ ที่พร้อมไปด้วย ประสบการณ์ วัยวุฒิ คุณวุฒิ คุณสมบัติ ที่พร้อมจะถ่ายทอด หลักสูตร วิชา ขบวนการ ลูกเสือไทย ให้กับ คณะลูกเสือทุกคน โดยมีฐานบัญชาการ คือ ค่ายลูกเสือ ไพรพนา ที่ยินดีต้อนรับ คณะลูกเสือ ทุกคน

มีสักกี่คน ที่จะทุ่มเท มุ่งมั่น ตั้งใจ เพื่อสิ่งที่ยิ่งใหญ่ และ สิ่งๆนั้น เป็นประโยชน์ ต่อสังคม และ ประเทศชาติ

ทั้งหมดนี้ คือ ประวัติ คร่าวๆ ที่จะทำให้คุณรู้จัก ชนะ ยาดี ชายหนุ่มจากเมือง สุพรรณบุรี ขับมอเตอร์ไซค์ รับจ้าง สู่ วิทยากร ลูกเสือ ระดับ ด็อกเตอร์ ผู้บริหาร ค่ายลูกเสือ ไพรพนา